สติ๊กเกอร์เรซิ่น เป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมพอสมควรในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทางกลุ่มหนึ่ง
ที่นิยมสินค้าที่ดูดีโก้เก๋ไม่ซ้ำใคร เพราะความโดดเด่นของสติ๊กเกอร์เรซิ่นนี้เป็นสินค้าที่สินค้าที่ดูดี
เฉพาะกลุ่มเป้าหมายราคาไม่แพงเกินไปและใช้ได้ดีมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ
แนวคิดของ สติ๊กเกอร์หยอดเรซิ่น นี้คงมาจากการที่ผู้ขาย
หรือผู้ผลิตต้องการเพิ่มมูลค่าของสติ๊กเกอร์เรซิ่นจากสติ๊กเกอร์ธรรมดา
ให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น มีคุณสมบัติของสินค้าที่ดีขึ้น คืออาจจะทนแด
ทนฝนได้มากกว่าสติ๊กเกอร์ธรรมดาที่เป็นกระดาษ และที่สำคัญเมื่อเพิ่มมูลค่ามากยิ่งขึ้นแล้ว
ก็จะสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นด้วย การทำสติ๊กเกอร์เรซิ่นนี้
ประยุกต์มาจากการใช้เรซิ่นในการเคลือบพื้นผิวแบบอื่นๆ
เพราะเรซิ่นมีคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้ว
ในการสร้างความทนทานให้แก่วัสดุอุปกรณ์ที่เราต้องการจะเคลือบนั้น เรียกง่ายๆว่า ถ้าหากเป็นพื้นผิวธรรมดาทั่วไปแล้ว
เราสามารถนำเรซิ่นมาเคลือบได้มากมายหลากหลายมาก ไม่ใช่เพียงแต่สติ๊กเกอร์เท่านั้น
วัสดุ อุปกรณ์อื่นๆ หรือสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำไปเคลือบเรซิ่นได้
ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมากก็คือ เคสโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนต่างๆนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง ไอโฟน หรือยี่ห้ออะไร ก็สามารถนำเคสมาเคลือบเรซิ่นได้ทั้งสิ้น
การเคลือบนี้นอกจากจะทำให้ทนขึ้น ไม่มีรอยขีดข่วนแล้ว ในกรณีของโทรศัพท์มือถือนี้
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความสามารถในการที่แห้งช้า
และทำให้เราสามารถตกแต่งได้ มีเวลาที่เราจะสามารถเอาอะไรไปโปะ ไปปะไปเขียนไปขีด
เพื่อให้เป็นลวดลายตามที่เราต้องการได้ หรือจะเอาสติกเกอร์ไปแปะบนเคสมือถือไว้แล้
แล้วเอาตัวเรซิ่นไปเคลือบก็จะถือเป็นการใช้สติ๊กเกอร์เรซิ่นในการตกแต่งเคสมือถือประการหนึ่ง
ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก นอกจากเคสของโทรศัพท์แล้ว
สินค้าที่เราเห็นว่าเป็นสติ๊กเกอร์เรซิ่นและได้รับความนิยมของไม่พ้นของที่ระลึกต่างๆ
ที่เราได้เห็นอยู่ตามสถานที่ขายของที่ระลึกทั่วไป พื้นหลังของสติกเกอร์จะเป็นรูปของสถานที่ท่องเที่ยว
ที่คุณได้ไปสัมผัส หรือจะเป็นคำพูดสวยๆหรูๆ หรือเป็นตัวการ์ตูนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่หรืองานท่องเที่ยวนั้นๆก็ได้
ทั้งนี้ แนวคิดในการทำ สติ๊กเกอร์เรซิ่น นี้ก็จะหลากหลายแตกต่างกันไป
แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า หรือความต้องการของตลาดในช่วงนั้นๆนั่นเอง
หากเราต้องการที่จะผลิตสินค้าประเภทสติ๊กเกอร์เรซิ่นให้ได้ผลดีแล้ว
เราจำเป็นจะต้องดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาด และสถานที่ที่เราขายของนั้น
ว่าลูกค้าชอบอะไร แบบไหน อย่างไร อะไรกำลังนิยมและอะไรตกยุคสมัยไปแล้ว
เพื่อให้เราทำสินค้าได้ถูกต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น